วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

แผนที่อำเภอพิมายจังนครราชสีมา


ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

การเดินทางจากจังหวัดมหาสารคามมาจังหวัดกระบี่

ทางรถโดยสารประจำทาง

บริษัท ขนส่ง จำกัด มีรถโดยสารประจำทางทั้งรถธรรมดาและรถปรับอากาศบริการวันละหลายเที่ยว รายละเอียดสอบถามได้ที่สถานีเดินรถสายตะวันออกเฉียงเหนือ หมอชิต 2 โทร. 0 2936 2852-66 สำหรับบริษัทเดินรถเอกชนที่วิ่งบริการไปจังหวัดมหาสารคามคือ มงคลทัวร์ โทร. 0 4371 1072 กรุงเทพฯ โทร. 0 2936 3638-9 www.transport.co.th

สำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถไฟ หรือเครื่องบิน จะต้องลงที่จังหวัดขอนแก่น แล้วต่อรถยนต์มาจังหวัดมหาสารคามอีกประมาณ 72 กิโลเมตร
ต่อจากกรุงเทพมากระบี่
รถโดยสารประจำทาง
เปิดบริการเดินรถกรุงเทพฯ-กระบี่ ทุกวัน รายละเอียดติดต่อที่ โทร. 434-5557-8 (รถธรรมดา) และโทร. 435-1199, 435-1200 (รถปรับอากาศ)

ทางอากาศ
จากท่าอากาศยานกรุงเทพฯ ลงที่สนามบินจังหวัดภูเก็ต แล้วต่อรถยนต์โดยสารเข้าจังหวัดกระบี่ สอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัทการบินไทย จำกัด โทร. 280-0060, 628-2000

ที่พักจังหวัดกระบี่











Krabi LaPlaya อ่าวนาง

143 หมู่ 3 ต.อ่าวนาง โทร.สนง ไทยทัวร์ 02-1641001 to 9 ราคา 1,600-5,500 บาท + อาหารเช้า

จังหวัดกระบี่




เกาะพีพีเล
มีพื้นที่เพียง 6.6 กม. เป็นเกาะที่เต็มไปด้วยภูเขาหินปูน มีหน้าผาสูงชันตั้งฉากกับผิวทะเล โดยรอบเกือบทั้งเกาะ มีพื้นน้ำลึกเฉลี่ยประมาณ 20 เมตร โดยมีบริเวณน้ำลึกที่สุดประมาณ 34 เมตรอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ เกาะแห่งนี้มีเวิ้งอ่าวสวยงาม อาทิ อ่าวปิเละ อ่าวมาหยา อ่าวโละซามะฯลฯ นอกจากนี้ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือยังมีถ้ำไวกิ้ง เมื่อปี พ.ศ. 2515 สมเด็จพระศรีนครินทราบรม ราชชนนี เสด็จประพาสถ้ำแห่งนี้ และทรงพระราชทานนามใหม่ว่า "ถ้ำพญานาค" ตามรูปร่างหินก้อน หนึ่งที่คล้ายเศียรพญานาค อันเป็นที่เคารพสักการะ ของชาวบ้านที่มาเก็บรังนกนางแอ่น บนเกาะแห่งนี้ ภาย ในถ้ำทางทิศตะวันออกและทิศใต้ พบภาพเขียนสีสมัยประวัติศาสตร์ เป็นรูปช้างและรูปเรือชนิดต่างๆ เช่น เรือใบยุโรป เรือใบอาหรับ เรือสำเภา เรือกำปั่น เรือใบใช้กังหัน และเรือกลไฟ เป็นต้น สันนิษฐานว่าภาพ เขียน เหล่านี้เป็นฝีมือของนักเดินเรือหรือพวกโจรสลัด เพราะจากการศึกษาเส้นทางเดินเรือจากฝั่งตะวัน ตกไปยังฝั่งตะวันออก บริเวณนี้อาจเป็นจุดที่เรือสามารถแวะพักหลบลมมรสุมขนถ่ายสินค้าหรือซ่อมแซม เรือได้

วิธีป้องกันตัวจากไข้หวัด 2009



ไข้หวัดใหญ่ 2009 ระบาดยังไม่หยุด ลักษณะอาการไม่รุนแรง ใกล้เคียงกันกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เดิมที่เกิดขึ้นตามปกติ อัตราตายต่ำ อาการป่วยคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล อาการ ไข้หวัดใหญ่ 2009

การติดต่อเหมือนกัน คือมีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ปวดเมื่อยเนื้อตัว
ที่ที่พบว่าทำให้ติดเชื้อได้มากที่สุด คือบ้านและโรงเรียน เพราะการติดเชื้อมีปัจจัยสำคัญคือ ต้องใกล้ชิดและสัมผัสกันประมาณ 8 3.ชั่วโมง หากแค่เดินผ่านกันหรืออยู่ในสถานที่ปลอดโปร่ง โอกาสติดเชื้อมีน้อยมาก
ที่สำคัญพบว่าผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ มีอาการน้อย บางรายมีอาการน้อยมากจนไม่รู้ว่าป่วย ร้อยละ 95 สามารถจัดการเชื้อโรคได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นไม่ควรตื่นตระหนกและปฏิบัติตามคำแนะนำ

กระทรวงสาธารณสุขได้ออกคำแนะนำ ดังนี้


1. หากป่วยเล็กน้อย ควรหยุดพักเพื่อรักษาตัวที่บ้าน พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ อาการจะหายเองได้ภายใน 2-3 วัน

2. สวมหน้ากากอนามัยป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ปิดปากและจมูกเวลาไอหรือจามด้วยกระดาษทิชชูหรือแขนเสื้อของตนเอง

3. ล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลบ่อยๆ แยกห้องจากผู้อื่น ไม่ใช้ของร่วมกัน

4. สำหรับสถานศึกษา หากพบเด็กป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่ต่อเนื่อง ตั้งแต่ 3 คนในห้องเรียนเดียว ให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบและควบคุมสถานการณ์

5. สำหรับผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ ควรติดตามอาการของตนเอง 7 วัน

6. โดยในระยะ 3 วันแรกควรพักอยู่ที่บ้านก่อนไปโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือสถานศึกษา หรือเข้าร่วมกิจกรรมอื่นๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น

7. ผู้ป่วยรับประทานยาลดไข้ เช่นพาราเซตามอล (ห้ามใช้ยาแอสไพริน) และยารักษาตามอาการ เช่น ยาละลายเสมหะ ยาลดน้ำมูก ตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร

8. ไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส ไม่จำเป็นต้องรับประทานยาปฏิชีวนะ ยกเว้นพบเชื้อแบคทีเรียและแพทย์สั่ง

9. ให้เช็ดตัวลดไข้ด้วยน้ำสะอาดที่ไม่เย็น ดื่มน้ำสะอาดและน้ำผลไม้มากๆ งดดื่มน้ำเย็นจัด พยายามรับประทานอาหารอ่อนๆ รสไม่จัด เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ไข่ ผัก และผลไม้ให้พอเพียง

10. นอนพักผ่อนมากๆ ในห้องที่อากาศไม่เย็นเกินไป และมีอากาศถ่ายเทสะดวก

11. หากอาการป่วยรุนแรงขึ้น เช่น หายใจลำบาก หอบเหนื่อย อาเจียนมาก ซึม ควรรีบไปพบแพทย์ทันที แจ้งประวัติการเดินทางหรือบุคคลใกล้ชิดให้แพทย์ทราบ

12. ข้อควรระวัง คือกลุ่มผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรังประจำตัว จะมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนมากกว่าปกติ

13. ต้องหมั่นคอยสังเกตอาการไว้ตลอด

อาหารเหนือ



ขนมจีนน้ำเงี้ยว

เครื่องปรุง
ซี่โครงหมูตัดเป็นชิ้น 1 นิ้ว (ต้มให้นุ่ม) 1/2 กิโลกรัม

เลือดหมู หั่นเป็นลูกเต๋า 1 นิ้ว 1/2 กิโลกรัม

มะเขือเทศลูกเล็ก ผ่าครึ่ง 1/2 กิโลกรัม

เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำซุป (น้ำต้มกระดูหมู) 6 ถ้วย

เครื่องแกง
พริกแห้ง 7 เม็ด

รากผักชีหั่นฝอย 1 ช้อนชา

ข่าหั่นละเอียด 1 ช้อนชา

ตะไคร้ซอย 2 ช้อนชา

กะปิ 2 ช้อนชา

หอมแดง 7 หัว

กระเทียม 3 หัว

วิธีทำ
1 โขลกเครื่องแกงให้ละเอียด นำลงผัดในน้ำมันให้หอม ใส่หมูสับ ผัดจนเข้ากัน

2 เทลงหม้อน้ำต้มกระดูกหมู ใส่ซี่โครงหมู แล้วใส่เลือดหมู มะเขือเทศ

3 ปรุงรสด้วยเกลือ พอเดือดอีกครั้ง ยกลง เสร็จขั้นตอนทำน้ำเงี้ยว

4 จัดขนมจีนใส่จานพร้อมเครื่องเคียง ราดด้วยน้ำเงี้ยวที่ทำไว้

อาหารเหนือ




แกงโฮะ

เครื่องปรุง
แกงเผ็ด 2 ถ้วย

แกงฮังเล 2 ถ้วย

แหนมหม้อ ยีให้กระจาย 2 ถ้วย

หน่อไม้ดองต้ม 2 ถ้วย

แคบหมู ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ 2 ถ้วย

วุ้นเส้นตัดสั้น 2 ถ้วย

ใบมะกรูดฉีก 1/2 ถ้วย

ตำลึง 2 ถ้วย

ตะไคร้หั่นฝอย 1 ถ้วย

พริกขี้หนูสด 2 ช้อนโต๊ะ

กระเทียมสับ 3 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย

วิธีทำ
1 กะทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันพอร้อน

2 ใส่กระเทียมสับ เจียวให้หอม

3 ใส่เครื่องทั้งหมดลง ผัดจนน้ำมันแห้ง

4 ใส่วุ้นเส้น

5 ปรุงรสด้วยมะนาว น้ำปลา ตามชอบ